1. ชื่อหมู่บ้าน
บ้านนาบัว หมู่ที่ 5 ตำบลโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม
แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงบ้านนาบัวหมู่ที่ 5
2. ประวัติหมู่บ้าน
บ้านนาบัวตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2434 ประชากรได้อพยพมาจากบ้านโพนสาวเอ้ เป็นส่วนใหญ่ประมาณ 90 % และมาจากบ้านโนนสังข์ 10 % ของประชากรที่ก่อตั้งหมู่บ้าน โดยก่อตั้งครั้งแรกที่โนนหนองบัว ปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน (หนองแวง ) โดยการนำของนายจันทร์สอน จิตมาตย์ ซึ่งมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันถึง 9 คน น้องคนที่ 2 มีบุตรมากถึง 10 คน เมื่อไม่มีที่ทำกินจึงได้พาน้องขี่ม้ามาหาจับจองที่ทำกินบริเวณหนองแวงในปัจจุบัน ในเมื่อน้องๆ มีที่ทำกินอุดมสมบูรณ์แล้ว ผู้เป็นพี่ชายคือ ปู่จันทร์สอนก็กลับไปอยู่ที่บ้านเดิม (บ้านโพนสาวเอ้) และให้น้องคนที่ 2 คือ ปู่ชินจักร จิตมาตย์ ก่อตั้งบ้านอยู่ที่หนองแวง อีกปีต่อมาน้องทั้ง 6 คน ก็ติดตามมาอยู่ด้วย จึงได้แบ่งปันที่ทำกินและที่อยู่อาศัยให้ และนอกจากนั้นยังมี นายไกรบุตร ราชสินธ์
นางลุน นางทุมมี นางอ่อนสี เป็นต้นได้ย้ายมาอยู่ด้วย จนได้เป็นหมู่บ้านนาบัวในปัจจุบัน
ลำดับตระกูลที่ก่อตั้งบ้านนาบัว
ปู่ต้นตระกูล |
ผู้สืบสกุลอันดับ 1(ลูก) |
ผู้สืบสกุลอันดับ 2(หลาน) |
1.ปู่จันทร์สอน จิตมาตย์ |
- |
- |
2.ปู่ชินจักร จิตมาตย์
นางป้อง จิตมาตย์(ภรรยา)
มีบุตร ด้วยกัน 10 คน
|
1.นางแพงศรี
2.นางแป่ง
3.นายคำปัน
4.นายปาน
5.นางจันทร์แดง
6.นายแป้ง
7.นายสุพีร์
8..นายศรีจันทร์
9.นางสุพัน
10.นางจันทร์หอม |
1.นายธรรมรส
2.นายเกียนทะลัง(ไข่กา)
3.นายบุญทัน
4.นายบุญเรียน
5.นางหงษ์ษา
6.นางทอนใบ(ไข่กา)
7.นางสมพัน
8.นายพรมา
9.นางผิงคำ
10.นางโฮมมา(ผู้ใหญ่ทอง) |
3.ปู่โฉม จิตมาตย์
นางนำ(ภรรยา)
มีบุตรด้วยกัน7 คน |
1.นางนำ
2.นางนิน
3.นายนวน
4.นางทอง
5.นางกล้วย
6.นางแอร์
7.นางล้อม |
1.นายกาฬสิน
2.นายจารโพธิ์
3.ลำทอง
4.นางเลาสี ราชสินธ์
5.นายสวาง
6.นางสวนมะณี
7.นางลำป่อน |
ปู่ต้นตระกูล |
ผู้สืบสกุลอันดับ 1(ลูก) |
ผู้สืบสกุลอันดับ 2(หลาน) |
4.ย่า โม๊ะ
ปู่เซียงมัง แสนมิตร(สามี)
มีบุตรด้วยกัน 7 คน |
1.นายจารย์สอน
2.นายนี
3.นาง นาง
4.นางเกสี
5.นางบัววี
6.นางจันทร์ดี
7.นายกลมพร |
1.นายบัวพา( บุษบา)
2.นายสมศรี
3.นางคาย-ลุงเคน
4.นายธรรมลิด
5.จารย์ไสว
6.นางเข็มมา (ภูสา)
7.นายจารย์ชม |
5.ย่า เมาะ
มะณีทอง (สามี)
มีบุตรด้วยกัน 2 คน |
1.นายคำพอง
2.นายทองคำ |
1.นางจันทร์มา
2.นางลำเทียน
3.นางบุญคำ |
6.ปู่ มุน
ย่าลำ(ภรรยา)
มีบุตรด้วยกัน 5 คน |
1.นางลำพร จันทร์ศรีเมือง
2.นางจันทร์เสน
3.นางสุเทียน
4.นางคำไพ
5.นางคำพอ |
1.นายศักดิ์ จันทร์ศรีเมือง
2.นายชม
3.นายหย่อนมา
-
- |
7.ย่ามอน
เซียงแก้ว(สามี)
มีบุตรด้วยกัน 4 คน |
1.นายคำไหม
2.นายพิมพ์
3.นางเกียนตา
4.นางมัดสา |
1.นางคำเสาร์ เลาศรี
2.นายสมพอ
3.นายแถวคำ
4.นางสกล-อารพร |
8.ย่า มิ้ง
สามี -
มีบุตร - |
- |
- |
9.ย่ามาย
สามี -
มีบุตรด้วยกัน 4 คน |
1.นายบุญมี
2.นายทิดดา
3.นายบุญมา
4.นางดวงตา |
1.นายบัวสา
2.นายตาเลื่อม
3.นายพรมตา |
ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2445 ได้ยกฐานะเป็นหมู่บ้านและได้มีการแต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านขึ้น เป็นคนแรก คือ นายจิตปัญญา แสนมิตร (นายเชียงมัง ) และสร้างวัด บัวขาวขึ้นในปี พ.ศ. 2445 โดยการนำของพระเทศ นามพลแสน งานหลักในการสร้างบ้านแปลงเมืองในขณะนั้น คือ การพัฒนาที่ทำกินมากกว่าอย่างอื่น เช่น การเบิกถางที่นา ทำสวน เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2454 ผู้ใหญ่บ้านคนแรกได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา จึงได้รับการแต่ตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 คือ นายวรรณทอง นามพลแสน ในขณะนั้นบ้านนาบัวมีทั้งหมด 30 ครอบครัว แต่ขณะนั้นที่ตั้งหมู่บ้านถูกน้ำท่วม จึงได้ย้ายที่ตั้งของหมู่บ้านใหม่ ซึ่งคือที่ตั้งของหมู่บ้านปัจจุบัน ส่วนพี่น้องที่อยู่บ้านโพนสาวเอ้ และบ้านโนนสังข์ก็ได้ย้ายมาอยู่เพิ่มเรื่อย ๆ ช่วงนี้ผู้ใหญ่วรรณทอง ได้เกษียณอายุราชการ จึงได้แต่งตั้งผู้ใหญ่กรม แสนมิตร ขึ้นมาแทน การสัญจรไปมากับส่วนราชการมีความยากลำบากมาก เพราะไม่มีเส้นทางคมนาคมเหมือนในปัจจุบัน ขณะนั้นบ้านนาบัวขึ้นต่อตำบลเรณูนคร เป็นหมู่ที่ 14 ของตำบลเรณู อำเภอธาตุพนม พาหนะในสมัยนั้นใช้เกวียนโดยใช้โคกระบือในการลาก การเดินทางไปติดต่อกับตำบลหรืออำเภอของผู้ใหญ่บ้าน คือ การเดินเท้า
ในระยะเวลานั้นชาวบ้านนาบัวได้ตั้งถิ่นฐานมั่นคงแล้ว นายกรม แสนมิตร ผู้ใหญ่บ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ คิดถึงบ้านพ่อเมืองแม่ จึงได้ปรึกษาหารือกันว่าอยากทำกองกฐินไปทอดที่บ้านเดิม เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้วจึงตกลงสร้างถนนเพื่อเป็นทางไปทอดถวายกฐินที่บ้านโพนสาวเอ้ ในปี พ.ศ. 2473 ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2493 ผู้ใหญ่กรม แสนมิตร ได้เกษียณอายุราชการ การเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านสมัยนั้นเป็นการเลือกตั้งแบบเปิดเผยโดยการใช้วิธีการยกมือ เป็นการตัดสินแพ้ชนะ ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 4 ของบ้านนาบัวคือ นายเกียรติ นามพลแสน ต่อมาในปีพ.ศ.2498 นายบุญทัน จิตมาตย์ เป็นผู้ใหญ่บ้านคนที่ 5 และบ้านนาบัวได้แยกออกเป็นบ้านหนองกุงและมีนายบัวลำ ราชสินธ์ เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก
ในปี พ.ศ. 2500 มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้นำรัฐบาลในสมัยนั้น คือ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลนำโดยนายภูมิ ชัยบัณฑิต เป็นผู้นำการเคลื่อนไหวครั้งแรกที่บ้านหนองกุง
มีการต่อสู้กันขึ้นที่เถียงนาพ่อสี ราชสินธิ์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2504 ได้มีการจับกุมราษฎร์ในหมู่บ้าน ในข้อหาอันธพาล ได้นำไปขังลืมไว้ที่อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จังหวัดอุดรธานี และย้ายนักโทษไปขังไว้ที่เรือนจำนครบาล กรุงเทพ ฯ ครั้งสุดท้ายได้นำนักโทษไปขังไว้ที่เรือนจำราชบัวขาว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีราษฎรในหมู่บ้านนาบัวและหนองกุงถูกจับไปด้วย 9 คน ในปี พ.ศ. 2507 ราษฎรที่ถูกจับในข้อหาอันธพาลก็ถูกปล่อยตัวพ้นจากการเป็นนักโทษกลับมาสู่ภูมิลำเนาของตัวเอง ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2507 ราษฎรในหมู่บ้านถูกยิงตาย 1 คน คือ นายคุณรม ไชยราช ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ 2507 นายภูมิมา ราชสินธิ์ ผู้มีความขัดแย้งทางการเมืองกับรัฐบาล ซึ่งเป็นราษฎรบ้านหนองกุงถูกยิงเสียชีวิต ในระยะนี้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทางรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและอาสาสมัคร มาเคลื่อนไหวปราบปรามราษฎรที่มีความคิดขัดแย้งกับรัฐบาลในเขตบ้านนาบัวและบ้านใกล้เคียง ราษฎรในพื้นที่บ้านนาบัวได้ทยอยกันเข้าป่า เพื่อรวมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์มากขึ้น ในระยะนั้นผู้ใหญ่บ้าน คือ นายอัมลา นามพลแสน (คนที่ 6) ในวันที่ 7 สิงหาคม 2508 ทางการได้ส่งตำรวจทหารออดปราบปรามฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างหนัก ในพื้นที่รอยต่อสามอำเภอ คือ อำเภอธาตุพนม อำเภอเมือง อำเภอนาแก พื้นที่ระหว่างบ้านนาบัว บ้านหนองฮี บ้านดงอินำ ได้เกิดการปะทะขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย นานประมาณ 45 นาที ปรากฏว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 4 นาย ฝ่ายสมาชิกคอมมิวนิสต์เสียชีวิต 1 นาย คือ นายกองสิน จิตมาตย์ ( สหายเสถียร ) ซึ่งเรียกเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า วันเสียงปืนแตก เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนั้นมีความเดือนร้อนเป็นอันมาก
ในปี พ.ศ. 2509 ทางราชการยิ่งปราบปรามมากยิ่งขึ้น ผู้ใหญ่อัมลา นามพลแสน พร้อมกับราษฎรหลายคนในหมู่บ้าน ถูกจับในข้อหากระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์ จึงได้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่ขึ้นมาใหม่เป็นคนที่ 7 คือ นายบุษบา แสนมิตร ทางการยิ่งเร่งการปราบปรามมากยิ่งขึ้น สั่งให้ราษฎร์ทำรั้วรอบหมู่บ้านอย่างแน่นหนาด้วยหนาม สั่งให้ชาวบ้านไปรายงานตัวก่อนออกไปทำไร่ทำนา และช่วงกลับมาบ้านอย่างเคร่งครัด ถ้าราษฎร์คนไหนฝ่าฝืนจะถูกลงโทษอย่างหนัก เช่น เตะ ตี และนำไปคุมขังที่ค่ายทหารบ้านหนองฮี และส่งไปที่ค่ายทหารกองทัพภาคที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร ส่วนเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในหมู่บ้านที่เหลือต้องอยู่เวรยามภายในรั้วหนามของหมู่บ้าน เมื่อทางราชการเร่งมือในการปราบปรามราษฎร ราษฎรก็ยิ่งหลั่งไหลเข้าร่วมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์มากยิ่งขึ้น เรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 2520 ทางกองทัพภาคที่ 2 มีนโยบาย 66/23 ราษฎรที่เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มทยอยกลับเข้ามามอบตัวกับทางการเป็นระยะ ๆ และในสมัยนี้โดยการนำของผู้ใหญ่บุษบา แสนมิตร ได้เสนอโครงการไฟฟ้าชนบทชาวบ้านได้สมทบโครงการด้วยเสาไม้ และคอนสายไฟฟ้า หรือสมทบเงินครัวเรือนละประมาณ 170 บาท หมู่บ้านนาบัวจึงมีไฟฟ้าใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2522 ในวันที่ 7 สิงหาคม 2522 ทางราชการได้จัดงานวันเสียงปืนดับขึ้นเป็นครั้งแรก มีการฝึก ทสปช. โดยพลโทเปรม ติณสูลานนท์ มาทำพิธีปิดการฝึกอบรม ใน ปี พ.ศ. 2522 นายไสว แสนมิตร ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านคนที่ 8 การต่อสู้ระหว่างทางราชการกับกองกำลังติดอาวุธพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทยก็ลดลงมาเรื่อย ๆ
ปี. พ.ศ. 2535 ได้แยกหมู่บ้านนาบัวเป็น 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ที 5 กับ หมู่ที่ 13 โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ยังคงเป็นนายไสว แสนมิตร ใน ปีพ.ศ. 2537 การต่อสู้กันของพรรคคอมมิวนิสต์กับทางการเริ่มสงบลง ราษฎรที่ออกป่ากลับเข้าร่วมพัฒนาชาติไทยเกือบหมด ที่เหลือก็คงตกค้างอยู่ที่ต่างประเทศ เช่น ประเทศลาว และในปี พ.ศ. 2537 นี้ นายไสว แสนมิตร ก็เกษียณอายุราชการ นายทิพจันทร์ แสนมิตร ได้รับเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนที่ 9 ในช่วงนี้รัฐบาลมีการพัฒนาประชาธิปไตยมากขึ้น ราษฎร์มีสิทธิ์เสรีภาพมากขึ้น ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2542 ผู้ใหญ่ทิพจันทร์ ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในตับ นายลำสินธิ์ จิตมาตย์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่คนต่อมา เป็นคนที่ 10 ต่อมาปี พ.ศ.2547 ผู้ใหญ่ลำสินธิ์ หมดวาระลง จึงมีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่ ผู้ได้รับเลือกคือ นายสุระศักดิ์ จิตมาตย์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน ลำดับที่ 11
ทำเนียบผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5
คนที่ 1 นายจิตปัญญา แสนมิตร (นายเชียงมัง ) ประมาณปี พ.ศ.2445-2454
คนที่ 2 นายวรรณทอง นามพลแสน ประมาณปี พ.ศ.2454
คนที่ 3 นายกรม แสนมิตร ประมาณปี พ.ศ.24
. - 2493
คนที่ 4 นายเกียรติ นามพลแสน ประมาณปี พ.ศ.2493-2498
คนที่ 5 นายบุญทัน จิตมาตย์ ประมาณปี พ.ศ.2498-2508
คนที่ 6 นายอัมลา นามพลแสน ประมาณปี พ.ศ.2508-2509
คนที่ 7 นายบุษบา แสนมิตร ประมาณปี พ.ศ.2509-2522
คนที่ 8 นายไสว แสนมิตร ประมาณปี พ.ศ.2522 - 2537
คนที่ 9 นายทิพจันทร์ แสนมิตร ประมาณปี พ.ศ.2537 - 2542
คนที่ 10 นายลำสินธิ์ จิตมาตย์ ประมาณปี พ.ศ.2542 - 2547
คนที่ 11 นายสุระศักดิ์ จิตมาตย์ ประมาณปี พ.ศ.2547 ปัจจุบัน
3.สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมถนนทางหลวงสายนครพนม-นาเหนือ ลักษณะพื้นที่ราบ สภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย
4.ข้อมูลพื้นฐาน
- พื้นที่ทั้งหมด 3,500 ไร่ -ที่ว่าง/ที่สาธารณะประโยชน์ 10 ไร่
- ที่ดินทำกิน 3,250 ไร่
- ที่อยู่อาศัย 250 ไร่
5.อาณาเขตของหมู่บ้าน
ทิศเหนือ ติดต่อบ้านนาบัว ม.13 ต.โคกหินแฮ่
ทิศใต้ ติดต่อลำห้วยแคนและน้ำบัง
ทิศตะวันออก ติดต่อบ้านนาม่วง ม.3 ต.โคกิหนแฮ่
ทิศตะวันตก ติดต่อ ลำน้ำบังเป็นแนวเขต
|